วันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2557

บันทึกตามเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี


บันทึกตามเสด็จ  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี

เสด็จเยี่ยมโรงเรียนวัดอำมาตย์วิทยา อำเภอเทิง  จังหวัดเชียงราย

วันจันทร์ที่  26  ตุลาคม  2552    เวลา   15.00 น.

*****************
ที่มา http://www.pariyatcr.debthai.net/home/includes/editor/assets/Ammart52.doc.


เวลา 15.35 น. รถยนต์พระที่นั่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จอดเทียบหน้าโรงเรียนวัดอำมาตย์วิทยา   พระครูอุดมคณาภิรักษ์    ผู้จัดการโรงเรียนวัดอำมาตย์วิทยา      พระครูวิมลศิลปกิจ ประธานกลุ่มโรงเรียนพระปริยัติธรรม จังหวัดเชียงราย ประธานกลุ่มฯจังหวัดแพร่ น่าน พะเยา ลำปาง  และพระมหาโสภณ  ปญฺญาวชิโร อาจารย์ใหญ่ โรงเรียนวัดอำมาตย์วิทยา ถวายการต้อนรับ     

            นางจุฬารัตน์  บุณยากร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และข้าราชการพร้อมทั้งคณะครูโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา เฝ้ารับเสด็จฯ

            พระครูอุดมคณาภิรักษ์ นำเสด็จ แนะนำคณะกรรมการสถานศึกษา โรงเรียนวัดอำมาตย์วิทยา  จากนั้น  เสด็จเข้าห้องประทับเพื่อลงพระนามาภิไธยและรับฟังการถวายรายงานจากสถานศึกษา

 

ห้องที่ 1  ห้องประทับ

            หลังจากเสด็จประทับนั่งพระเก้าอี้แล้วทรงลงพระนามาภิไธย และในภายในห้องประทับนั้น

มีพระเถระผู้บริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาของจังหวัดเชียงราย น่าน แพร่ พะเยา ลำปาง และผู้เข้าเฝ้าทูลเกล้าฯ ถวายเงิน รอรับเสด็จ

           จากนั้นเสด็จทรงงานรับการถวายรายงานจาก พระมหาโสภณ  ปญญาวชิโร อาจารย์ใหญ่ตามแผนภูมิ แผนภาพ เกี่ยวกับประวัติการก่อตั้งโรงเรียน, จำนวนคณะครู, สถิตินักเรียนเป็นรายปี, ผลสัมฤทธิ์การสอบโอเนต,  สถิติการสอบนักธรรม-บาลี, นักเรียนทุนเฉลิมราชกุมารี 2 รูป, และศิษย์เก่าต้นแบบซึ่งเป็นพระภิกษุจำนวน 4 รูป ฆราวาส จำนวน 4 คน

            ทรงตรัสว่า  นักเรียนเก่าก็ออกไปเรียนที่อื่นเพราะมีทางเลือก  เพราะอยู่ในเมืองด้วย  ทรงสนพระทัยนักเรียนทุนเฉลิมราชกุมารี  2  รูป คือสามเณรโสภณ  ทองสิทธิ์ และสามเณรเกียรติศักดิ์  หลวงเป็ง  ตรัสถาม  ถึงการเรียนชั้นอะไร  พระมหาโสภณ  ปญฺญาวชิโร ถวายพระพรว่าอยู่ชั้น ม.4 และ ม.5

พระครูวิมลศิลปกิจ ถวายรายงาน เรื่อง จำนวนสถิตินักเรียนของทั้งจังหวัดเชียงราย, รายงานสุขภาพนักเรียนผู้ได้รับภัตตาหารและอาหารเสริมนม,  ผลการตรวจสุขภาพนักเรียนและคณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย พบว่ามีสารพิษในร่างกาย, การพัฒนาบุคลากรในด้านการวิจัยในชั้นเรียน ตามแผนภูมิ-แผนภาพ

 

ทรงตรัสถามถึงสารพิษในร่างกายของพระภิกษุ  สามเณร  ว่าเป็นสารพิษจำพวกไหน   สารเคมีอะไร  เป็นพวกยาฆ่าแมลงหรือไม่   องคมนตรีนายแพทย์เกษม  วัฒนชัย  ทูลตอบว่า เป็นสารประเภท ออการ์โนฟอสเฟตและคาร์บอเนต  

พระครูวิมลศิลปกิจ ถวายรายงานว่า  ได้ตรวจสุขภาพของชาวบ้านผลปรากฏว่า ผลการตรวจไม่แตกต่างกับพระภิกษุสามเณร  ทรงถามถึงวัดหมื่นพุทธ ฯ(วัดจีน)   ทรงถามเรื่องสารพิษในอาหาร  ฉันอาหารที่ปนเปื้อนสารพิษมากเป็นอันตราย  ทั้งชาวบ้านและพระภิกษุ

ทรงตรัสถึงน้ำที่โรงเรียนเวียงชัยพิทยาเป็นสนิม  พระครูวิมลศิลปกิจถวายพระพรว่า  ศูนย์วิจัยตรวจและแก้ไขแล้ว โดยทางสโมสรโรตารีได้จัดเครื่องกรองน้ำขนาดกลางไปติดตั้งให้แก้ไขเฉพาะที่โรงเรียนเวียงชัยพิทยา    จากนั้น ว่าที่ร้อยตรีกิตติ  ขันธมิตร กรมวังผู้ใหญ่ ได้ทูลถวายรายงานว่า ในภาพ รวมทั้งหมดศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ได้นำน้ำทุกโรงเรียนไปตรวจ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจคุณภาพน้ำ ยังไม่ได้รับรายงาน

นายประพันธ์  ภู่งาม  นายอำเภอเทิง เบิกผู้มีจิตศรัทธาเฝ้าทูลเกล้าฯ ถวายเงิน  จำนวน  21 ราย โดยมีนายประพันธ์  คำจ้อย  ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย และข้าราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย พร้อมทั้งนายสุนทร  ดวงแก้ว  นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ  เป็นผู้ประสานงาน

จากนั้นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี   เสด็จพระราชดำเนินออกห้องประทับ มีองค์กรครูและคณะครูโรงเรียนปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา จังหวัดเชียงรายและจังหวัดพะเยาเฝ้ารับเสด็จฯ ตามรายทาง

เสด็จถึงห้องสาธิตการเรียนการสอนวิทยาลัยการอาชีพเทิง

 

ห้องที่  2 ห้องสาธิตการเรียนการสอนวิทยาลัยการอาชีพเทิง

            นายสมยศ  พันธุ์กสิกร ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพเทิง พร้อมข้าราชการ คณะครู เจ้าหน้าที่ เฝ้ารับเสด็จฯ    ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพเทิงถวายรายงานการเรียนการสอนหลักสูตรวิชาชีพ ตามแผนภูมิ-แผนภาพ และถวายรายงานความร่วมมือกับโรงเรียนวัดอำมาตย์วิทยาในด้านการสอนวิชาชีพให้กับพระภิกษุสามเณร เมื่อลาสิกขาสามารถประกอบอาชีพได้  พร้อมทูลเชิญเสด็จทอดพระเนตรการเรียนการสอนวิชาชีพ  3 รายวิชา คือ

1. การประกอบคอมพิวเตอร์และการลงโปรแกรมคอมพิวเตอร์

2. การติดตั้งเครื่องเสียงในรถยนต์

3. การติดตั้งจานดาวเทียม

           

สามเณรสมศักดิ์  หมวดทอง ถวายรายงาน

             ขอถวายพระพรสมเด็จแม่ อาตมภาพสามเณรสมศักดิ์  หมวดทอง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5  ขอถวายรายงาน การเรียนการสอนวิชาชีพร่วมกับวิทยาลัยการอาชีพเทิง ในตรงจุดนี้ คือ คอมพิวเตอร์ ที่สามารถจะใช้งานได้ตามปกติ ก่อนที่จะใช้งานได้นั้นก็จะผ่านขั้นตอนในการ ซ่อมประกอบและลงโปรแกรม ในส่วนนี้คือ การติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์   เครื่องเสียงทั่วไปจะมีลักษณะดังนี้ และนี่คือ แบบจำลองเครื่องเสียงรถยนต์  ประกอบไปด้วย ซับเบส ลำโพง เพาเวอร์แอมป์ สายไฟ และนี่คืออุปกรณ์ในการซ่อมเครื่องเสียงรถยนต์ และส่วนนี้เป็นการติดตั้งจานดาวเทียม เพื่อใช้ประโยชน์ในการรับชมข่าวสารต่างๆ ทั้งหมดนี้สามารถที่จะเป็นประโยชน์ เมื่อลาสิกขาออกไปได้และสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ขอถวายพระพร”

            ทรงตรัสว่าเรียนแล้วปฏิบัติได้ด้วยเรียนแล้วมีผลงาน  เรียนแล้วสามารถประกอบอาชีพได้และสอนคนอื่นที่ไม่มีอาชีพ  ให้มีอาชีพได้

            ทรงฉายพระรูปร่วมกับผู้บริหารและคณะครูวิทยาลัยการอาชีพเทิง จากนั้นเสด็จเข้าห้องปฐมพยาบาล

 

ห้องที่ 3  ห้องปฐมพยาบาล งานอนามัยโรงเรียน

ในห้องนี้มีนางกรรณิการ์  สุเดชมารค ครูผู้ดูแลงานอนามัย สามเณรกลวัชร  รักญาติ  สามเณรเจษฎา  นางามและข้าราชการ เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเทิงและโรงพยาบาลเทิง เฝ้ารับเสด็จ

            สามเณรกลวัชร  รักญาติ  ถวายรายงานว่า “ขอถวายพระพร สมเด็จแม่ อาตมภาพสามเณร      กลวัชร  รักญาติ   นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ขอถวายรายงาน งานอนามัยโรงเรียนวัดอำมาตย์วิทยาดังต่อไปนี้

จากตารางสถิติการดำเนินงานปฐมพยาบาลโรงเรียนวัดอำมาตย์วิทยา  ตั้งแต่ปีการศึกษา 2549 มีครูและนักเรียนเข้ารับการปฐมพยาบาล 96 รูป/คน จากทั้งหมด 397 รูป/คน คิดเป็นร้อยละ 24.15   ปีการศึกษา 2550 ครูและนักเรียนเข้ารับการปฐมพยาบาล 100 รูป/คน จากทั้งหมด 377 รูป/คน คิดเป็นร้อยละ 25.48   และปีการศึกษา 2551 ครูและนักเรียนเข้ารับการปฐมพยาบาล 181 รูป/คน จากทั้งหมด 337 รูป/คน คิดเป็นร้อยละ 53.69  และปีการศึกษา 2552  ภาคเรียนที่ 1  มีครูและนักเรียนเข้ารับการ

ปฐมพยาบาล 132 รูป / คน จากทั้งหมด 318 รูป / คน

และจากตารางจะเห็นได้ว่าจำนวนนักเรียนเข้ารับการปฐมพยาบาลมากที่สุดจะอยู่ในช่วงเดือน มิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม เพราะอยู่ในช่วงแรก ๆ ของการเปิดภาคเรียนที่ 1  นักเรียนปรับตัวไม่ทัน

จึงทำให้มีอัตราป่วยมากเป็นพิเศษ

จากกราฟแสดงจำนวนผู้เข้ารับการปฐมพยาบาลย้อนหลัง  3 ปี   ตั้งแต่ปีการศึกษา 2549  ถึง  2551 จะพบว่าจำนวนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เข้ารับการปฐมพยาบาลมากที่สุด เพราะต้องมีการปรับตัวในการใช้ชีวิตของการเป็นสามเณรเป็นอย่างมาก ตั้งแต่การดำเนินชีวิตประจำวัน ตลอดจนถึงการเข้าศึกษาในระดับมัธยม ทำให้นักเรียนบางรูปปรับตัวไม่ทันจึงทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้ง่าย

ดังในตารางแสดงสถิติการปฐมพยาบาล การเจ็บป่วย  โรคที่พบได้แก่ ปวดหัว ไข้หวัดตามฤดูกาล หน้ามืดเป็นลม และจากอุบัติเหตุได้แก่  มีดบาด หกล้ม เป็นต้น เมื่อมีอาการป่วยจะมีครูประจำห้องพยาบาลทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และให้ทานยาตามอาการ นอนพักรอดูอาการประมาณ 30 นาที - 1 ชั่วโมง หากอาการยังไม่ดีขึ้นจะนำตัวส่งโรงพยาบาลเทิงเป็นลำดับต่อไป ขอถวายพระพร

ทรงตรัสถามโรคอื่น ๆ มีบ้างไหม  นางกรรณิการ์  สุเดชมารค  ทูลว่าไม่มีโรคอื่นใด  มีเฉพาะโรคกระเพาะอาหาร และหน้ามืดเป็นลมผลจากไม่ได้ฉันข้าวเช้าก่อนมาโรงเรียนพระองค์ทรงตรัสว่า เป็นโรคที่เป็นมาจากบ้าน แล้วสารพิษมีไหม  ทูลตอบว่าไม่มี แล้วตรัสต่อว่า  ทางโน้นบอกว่ามีสารพิษ แล้วสามเณรมีไหม  ทูลตอบว่า  ไม่มี เนื่องจากยังไม่ได้รับการตรวจ  ทรงตรัสต่อว่า ต้องตรวจให้หมดเพื่อหาแนวทางแก้ไข

ทรงตรัส ถึงสารเคมี สารพิษในชาวไร่ชาวนาเป็นมาก เพราะฉีดย่าฆ่าแมลง    ทรงปรารภ เรื่องสารเคมี   ต้องตรวจให้หมดเพื่อหาแนวทางแก้ไข ตรัสว่าชาวไร่ชาวนามีสารพิษในร่างกาย แต่ไม่เป็นอะไร เพราะไม่มีอาการ

            พระครูวิมลศิลปกิจ ถวายพระพรว่า  “อาตมภาพตรวจแล้วพบว่ามีสารพิษในร่างกายแต่สุขภาพเป็นปกติไม่มีความรู้สึกใดๆ ขอถวายพระพร”

จากนั้นเสด็จถึงห้องสหกรณ์โรงเรียน

 

ห้องที่ 4  ห้องสหกรณ์โรงเรียน

            เสด็จเข้าห้องสหกรณ์ ซึ่งมีนางปาริดา  กิติมา   และนางสาวกนกกานต์  เวียงเกตุ  ครูผู้ดูแลงานสหกรณ์โรงเรียน สามเณรจิระ  ขัดทรายขาว,  สามเณรพงศธร   ธนะวงศ์   และข้าราชการส่งเสริมสหกรณ์จังหวัดเชียงราย เฝ้ารับเสด็จ

 สามเณรจิระ  ขัดทรายขาว   ขอถวายพระพรสมเด็จแม่  อาตมภาพ  สามเณร  จิระ ขัดทรายขาว   นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6   ขอถวายรายงานกิจกรรมสหกรณ์โรงเรียนวัดอำมาตย์วิทยา จัดตั้งขึ้นเมื่อ  วันที่ 18  พฤษภาคม  2552  มีสามเณรเป็นสมาชิกทั้งหมด  305 รูป ครูบรรพชิตจำนวน 3 รูป  ครูฆราวาส จำนวน 11 คน  รวม 308 รูป  11 คน หุ้นทั้งสิ้น  666 หุ้น เป็นเงิน  6,660 บาท เป็นของคณะครูจำนวน  56  หุ้น เป็นเงิน 560 บาทขอถวายพระพร

สามเณรพงศธร  ธนะวงศ์  ถวายรายงาน ขอถวายพระพรสมเด็จแม่ อาตมภาพสามเณรพงศธร  ธนะวงค์  นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ขอถวายรายงานกิจกรรมสหกรณ์โรงเรียนวัดอำมาตย์วิทยา  ภาคเรียน ที่ 1 ปีการศึกษา  2552   รวมรายได้จากการขายสินค้าเป็นเงิน 115,444  บาท  หักค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและอื่น ๆ แล้ว  เป็นเงิน  กำไรสุทธิ  30,031.95 บาท

ขอถวายรายงานแผนภูมิแท่งเปรียบเทียบยอดซื้อยอดขาย  จากการทดลองทำกิจกรรมสหกรณ์ของโรงเรียนวัดอำมาตย์วิทยา  เริ่มตั้งแต่วันที่  18 พฤษภาคม 2552 จนถึงวันที่ 21 กันยายน 2552  รวมระยะเวลา  5 เดือน  เฉลี่ยแล้ว  กำไร  6,000 บาท ต่อ เดือน  ขอถวายพระพร

พระองค์ทรงตรัสถาม  “ใครเป็นคนออกไปซื้อของมาจำหน่ายในสหกรณ์”

สาเณรจิระ  ขัดทรายขาว ถวายพระพรว่า   คนที่ออกไปซื้อของมาจำหน่ายคือครูพี่เลี้ยงทั้งสองท่านขอถวายพระพร

            พระองค์ทรงเปิดดูบัญชี และทรงแนะนำว่าควรจะมีบัญชีที่เปรียบเทียบจากคอมพิวเตอร์  กับลายมือเขียนและทรงตรัสถามว่า    “ สามเณรได้ไปทัศนศึกษาดูงานสหกรณ์ที่อื่นเหมือนกับนักเรียนฆราวาสไหม”  หัวหน้าสหกรณ์จังหวัดเชียงรายทูลตอบว่า   “ไม่เคยไป พะยะค่ะ”    พระองค์ทรงชมว่าลายมือในการเขียนบัญชีสวยเป็นระเบียบเรียบร้อย

            จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปห้องวิทยาศาสตร์

 

ห้องที่ 5  ห้องวิทยาศาสตร์

นางสาววิกูล  ใจพลแสน  หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์  สามเณรกฤษฎา ฐานะงาม  สามเณรณัฐณานนท์ ปูชัย สามเณรอนันต์  กองบุญเรือง สามเณรณัฐพล  ปัญญาเมือง สามเณรศุภกรณ์  แซ่โต๋  สามเณรณรงค์ชัย   ธนะหมอก  สามเณรจิราวัฒน์  พรมศิริ  สามเณรศรัญ  ค้าไหมคำ  สามเณร ณัฐพล ทองจักร  สามเณรมงคล  พานวัน และสามเณรวิษณุชัย   เชียงแรง  เฝ้ารับเสด็จ ทรงรับฟังรายงานจากโครงงานเรื่องการทดลองทำไข่ 3 รส และเรื่องหนอนสะกดมด

            สามเณรกฤษฎา  ฐานะงาม ถวายรายงาน ขอถวายพระพร  สมเด็จแม่  อาตมภาพ  สามเณร กฤษฎา   ฐานะงามนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  4 ขอถวายรายงานการทำโครงงานวิชาวิทยาศาสตร์  เรื่อง  การทดลองทำไข่  3 รส  โดยมีผู้ร่วมทำโครงงานคือ  1. สามเณรนัฐพล  ปัญญาเหมือง                2. สามเณร อนันต์  กองบุญเรือง  3. สามเณรศุภกรณ์  แซ่โต๋  4. สามเณรณรงค์ชัย  ธนะหมอก  ดังต่อไปนี้

ที่มาและความสำคัญ

การทำโครงการนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการค้นคว้าหาข้อมูลการถนอมอาหาร โดยวิธีการทำไข่เค็มไชยา  จึงเป็นจุดสนใจที่จะนำมาทำโครงงานจึงนำไปปรึกษาครูในรายวิชาวิทยาศาสตร์จึงได้รับคำแนะนำว่าควรที่จะนำมาประยุกต์ให้มีความแปลกใหม่ขึ้น  เพื่อจะศึกษาว่านอกจากเกลือแล้วยังมีวัตถุดิบอื่นที่  สามารถนำมาถนอมอาหารได้อีกหรือไม่

จุดประสงค์

            1. เพื่อเรียนรู้วิธีการทำไข่เค็ม  โดยวิธีการทำไข่เค็มไชยา

            2. เพื่อการศึกษาว่างยังมีวัตถุดิบอื่นที่สามารถนำมาดองไข่ได้  คือ น้ำตาลทราย  น้ำสมสายชู  และเกลือไอโอดีน

            3. เพื่อรู้ถึงวิธีการแปรรูปอาหารรวมถึงการเก็บรักษาอาหาร

ขอบเขตการทำงาน

            การทดลองนี้ใช้วัตถุดิบเป็นส่วนผสม  3 ชนิด  คือน้ำตาลทรายน้ำส้มสายชู  และเกลือไอโอดีน และทำการทดลองกับไข่เป็ด ด้วยวิธีการเดียวกับการทำไข่เค็มไชยา  ขอถวายพระพร

            สามเณรณรงค์ชัย  ธนะหมอก ถวายรายงาน    ขอถวายพระพรสมเด็จแม่ อาตมภาพสามเณรณรงค์ชัย  ธนะหมอก นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3ขอถวายรายงาน ตัวแปรที่ศึกษา ตัวแปรต้น : ชนิดของวัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสม 3 ชนิดคือ น้ำตาลทราย น้ำส้มสายชูและเกลือไอโอดีน ตัวแปรตาม : ได้แก่ไข่ 3 ชนิด คือไข่หวาน ไข่เปรี้ยว ไข่เค็ม

ตัวแปรควบคุม :  ปริมาณอัตราส่วนที่ใช้ในการผสมระยะเวลาในการเก็บ  ประมาณ 14 วัน ภาชนะเก็บไข่ ชนิดของไข่ จำนวนไข่ที่ใช้ต่ออัตราส่วนของส่วนผสมอุปกรณ์ที่ใช้ตวง ขอถวายพระพร”

            สามเณรอนันต์  กองบุญเรือง ถวายรายงาน ขอถวายพระพรสมเด็จแม่ อาตมภาพสามเณรอนันต์  กองบุญเรือง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  4  ขอถวายรายงาน วัสดุอุปกรณ์และสารเคมีที่ใช้ในโครงงาน ดังนี้

อุปกรณ์

            กล่องกระดาษ                         ถุงพลาสติก                 ยางรัด 

            ดินจอมปลวกละเอียด             ขี้เถ้าแกลบ                  ไข่เป็ด

สารเคมีที่ใช้

            น้ำสะอาด                    น้ำตาลทราย                น้ำส้มสายชู                 เกลือไอโอดีน

ทางกลุ่มได้ดำเนินการศึกษา  ออกเป็น  2  ตอน

            ตอนที่  1 คือ การเตรียมส่วนผสมและวัตถุดิบ

            ตอนที่  2 คือ การทดลองทำไข่ 3 รส โดยใช้ดินในอัตราส่วน  3 ส่วน ต่อน้ำตาลทรายน้ำส้ม สายชู  เกลือไอโอดีน 1 ส่วน ต่อไข่เป็ดสูตรละ  2 ฟอง 

            จากนั้นนำไข่เป็ดที่เตรียมไว้ทั้งหมด 8 ฟอง มาคลุกเคล้ากับส่วนผสม  จากนั้นนำมามาคลุกกับขี้เถ้าแถลบและบรรจุในถุงพลาสติกแล้วใช้ยางรัดปากถุงให้แน่น  เก็บใส่ในกล่องกระดาษเพื่อรักษาความชื้น  ขอถวายพระพร

สามเณรณัฐพล  ปัญญาเหมือง ถวายรายงาน    ขอถวายพระพรสมเด็จแม่ อาตมภาพ สามเณร

ณัฐพล  ปัญญาเหมือง  นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  ขอถวายรายงาน ลำดับต่อไปคือการวิเคราะห์ข้อมูลผลการสังเกตลักษณะของไข่  ทั้ง  4 ชุด ปรากฏผลดังนี้

            จากการสังเกตพบว่าในระยะเวลา 3 4 วัน  พบว่า ไข่ธรรมดาและไข่เค็มจะไม่มีไอน้ำ  ส่วนไข่หวานและไข่เปรี้ยวมีไอน้ำเกาะติดอยู่ข้างถุง และมีราขาวขึ้นบริเวณขี้เถ้าแกลบ เมื่อครบกำหนด 14 วัน เปิดถุงดู พบว่าไข่ธรรมดา และไข่เค็มจะไม่มีกลิ่นฉุน แต่ไข่หวานและไข่เปรี้ยว มีกลิ่นฉุน จากนั้นล้างให้สะอาดแล้วนำมาต้มผ่าซีกสังเกตดู พบว่าไข่ธรรมดา ไข่หวาน ตรงไข่แดงจะมีสีเข้ม ไข่เค็มตรงไข่แดงรอบนอกจะมีสีเหลืองเข้มตรงกลางมีสีเหลืองอ่อน ไข่เปรี้ยว สีของไข่แดงมีสีเหลืองอ่อนทั่วทั้งไข่แดง หลังจากนั้นนำมาชิมรสชาติ พบว่าไข่ธรรมดา ไข่หวานไข่เปรี้ยวตรงไข่แดงและไข่ขาวจะมีรสชาติจืด ไม่เค็มตรงไข่แดงจะมีรสชาติเค็มและมัน ไข่ขาวก็มีรสชาติเค็มกว่าไข่แดง   ขอถวายพระพร

สามเณรศุภกรณ์   แซ่โต๋  ถวายรายงาน  “ขอถวายพระพรสมเด็จแม่อาตมภาพสามเณรศุภกรณ์  แซ่โต๋  นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3   ขอถวายรายงานลำดับต่อไปคือประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน

1. ได้เรียนและทดลองทำไข่เค็มไชยา

2. ได้ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการแสวงหาคำตอบที่สงสัย

3. สามารถนำวิธีการทำไข่เค็มไชยามาถนอมไข่ให้เก็บกินเป็นเวลานานได้

ข้อเสนอแนะ

1. หากมีผู้สนใจที่จะถนอมไข่ด้วยวิธีการเดียวการนี้  สามารถเพิ่มลดอัตราส่วนได้เพื่อจะได้ไข่

    ที่มีรสชาติดีขึ้น

2. อัตราส่วนของไข่เปรี้ยวและไข่หวานสามารถเพิ่มอัตราส่วนของน้ำตาลทรายและน้ำส้ม

     สายชูได้เพราะอัตราส่วนที่ทดลอง  ไข่ที่ได้ไม่มีรสชาติหวานและเปรี้ยว

3. ควรเก็บไข่ไว้ในที่มิดชิด  เพื่อรักษาความชื้นของดิน ขอถวายพระพร”

            สามเณรกฤษฎา  ฐานะงาม ถวายรายงาน

            “สรุปการทดลอง จากการทดลอง  นำวัตถุดิบ  คือน้ำตาลทราย  น้ำส้มสายชูและเกลือไอโอดีน  สามารถนำมาถนอมอาหารได้ โดยไม่ทำให้ไข่เสีย  แต่รสชาติที่ได้ไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ทั้งหมด คือ ไข่หวานและไข่เปรี้ยว ไม่มีรสชาติตามที่ได้ตั้งสมมติฐานไว้ ส่วนไข่เค็มมีรสเค็มเหมือนไข่เค็ม  ตามท้องตลาดทั่วไป

จากการทดลองทำไข่หวานไม่มีรสหวาน  ไข่เปรี้ยวไม่มีรสเปรี้ยวอาจจะเป็นเพราะอัตราส่วนการทำไข่เค็มไชยาอาจจะไม่เหมาะสมกับการทำไข่หวานและไข่เปรี้ยวก็ได้  กลุ่มของอาตมภาพ ขอจบการถวายรายงานไว้เพียงเท่านี้  ขอถวายพระพร”

กลุ่ม 1 การทำไข่ 3 รส  ทรงรับฟังอย่างสนพระทัย ตรัสว่าไข่ไม่เปรี้ยวเพราะน้ำส้มไม่เข้ารสไม่เปลี่ยนก็ฉันได้ ทรงถ่ายรูป ส่วนประกอบโครงงาน

สามเณรมงคล  พานวัน ถวายรายงานโครงงานหนอนสะกดมด

“ขอถวายพระพร สมเด็จแม่ อาตมภาพ สามเณรมงคล  พานวัน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3   ขอถวายรายงานโครงงานหนอนสะกดมด  จากการศึกษาโครงงานเรื่องหนอนพิชิตมดทำให้รู้ว่ารากหญ้าหนอนตายหยากมีสาร sermonize ซึ่งออกฤทธิ์ต่อมดทำให้มดมึนเมาตายในที่สุดโดยการทดลองนำรากหญ้าหนอนตายหยากมดบดคั่วกับน้ำมันหมูทำให้มดคาบไปกินในรังของมันแล้วตายในที่สุดจึงคิดเปลี่ยนวิธีจากการให้มดได้รับสารจากวิธีการกินเป็นการวิธีการสัมผัสสารภายนอกร่างกาย และเปรียบเทียบกับสมุนไพรอีก 2 ชนิด คือ ขิง และข่า ว่าชนิดไหนส่งผลต่อการทำงานของมดมากที่สุด ขอถวายพระพร”

สามเณรณัฐนานนท์  ปูชัย ถวายรายงาน      “ขอถวายพระพร สมเด็จแม่ อาตมภาพ  สามเณร

ณัฐนานนท์  ปูชัย   นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  ขอถวายรายงาน วิธีดำเนินการศึกษา ดังนี้

1. นำวัตถุดิบสับเป็นชิ้นบางๆบดให้ละเอียด แล้วชั่งวัตถุดิบให้ได้ 20  กรัม

2. ตวงน้ำ 20 มิลลิลิตร ผสมกับวัตถุดิบที่ชั่งไว้

3. กรองเอาแต่น้ำสารละลายใส่ในบีกเกอร์แล้วบรรจุสารละลายลงในขวดสเปรย์

4. เตรียมมดใส่ในบีกเกอร์ อย่างละ 3 ชุด ชุดละ 10 ตัว (มดดำ มดคันไฟ มดง่าม)

5. จากนั้นฉีดพ่นสารละลายแต่ละชนิดอย่างละ 2 ครั้ง ใส่ในบีกเกอร์ที่มีมดแต่ละชนิดอยู่

6. จากนั้นสังเกตปฏิกิริยาการเคลื่อนไหวของมดทุก ๆ 5 นาที

7. ทำการทดลองซ้ำอีก 2 ครั้ง

ขอถวายพระพร”

            สามเณรจิราวัฒน์  พรมศิริ ถวายรายงาน

“ขอถวายพระพร สมเด็จแม่ อาตมภาพ สามเณรจิราวัฒน์  พรมศิริ  นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  วิธีทำการทดลอง คือ นำสารละลายที่บรรจุใส่ในขวดสเปรย์ ทั้ง 4 ขวด ฉีดสารละลายทั้ง 4  ชนิด จำนวน 2 ครั้ง สังเกตและบันทึกการเคลื่อนไหวของมด  ทุกๆ 5 นาที 

 

วิเคราะห์ผลการทดลอง จากการทดลองทั้ง 3 ครั้ง จึงได้ ตารางเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยร้อยละของจำนวนมดที่หยุดการทำงานดังนี้

       สารละลาย
ชนิดมด
น้ำสะอาด
รากหญ้าหนอนตายหยาก
ขิง
ข่า
มดดำ
11.07
76.67
58.9
42.23
มดคันไฟ
17.76
74.43
71.10
60.03
มดง่าม
15.53
83.3
62.23
67.76

สามเณรมงคล  พานวัน   ถวายรายงาน

“ขอถวายพระพร สมเด็จแม่  อาตมภาพ สามเณรมงคล  พานวัน  ขอถวายรายงาน  สรุปผลการทดลองจะเห็นว่ารากหญ้าหนอนตายหยาก มีฤทธิ์ต่อมดมากที่สุดลองลงมากคือขิง ลองลงมาคือ ข่า ส่วนน้ำสะอาดไม่มีสารเคมีมดเพียงแค่หนีน้ำไม่หยุดการทำงาน ขอถวายพระพร”

 สามเณรศรัญ  ค้าไหมคำ  ถวายรายงาน “ขอถวายพระพร สมเด็จแม่  อาตมาภาพ สามเณรศรัญ  ค้าไหมคำ ขอถวายรายงาน  ประโยชน์ของการทำโครงงานมีดังนี้ คือ

1. ได้รู้วิธีการทำโครงงานวิทยาศาสตร์

2. ได้รับความรู้และได้รู้การนำพืชสมุนพรจาทกรุ่นปู่ย่ามาใช้ในชีวิตของเรา

3. ได้รับความรู้จากพืชบ้านเรา และยังมีอีกหลายชนิดที่นำมาใช้ประโยชน์จากพืชเหล้านั้น

4. เกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

ขอถวายพระพร”

สามเณรณัฐพล  ทองจักร  ถวายรายงาน  “ขอถวายพระพร สมเด็จแม่  อาตมาภาพ สามเณรณัฐ-พล  ทองจักร ขอถวายรายงาน ข้อเสนอแนะดังนี้

1. หากจะนำโครงงานนี้ไปวิจัยต่อ อยากให้ทดลองศึกษาแบบไม่ผสมน้ำสะอาดลงไป

2. รากหญ้าหนอนตายหยากขุดมาทิ้งไว้เป็นเวลานาน ถ้าน้ำมาบด จะมีความเหนียวหนืดมาก

3. รากหญ้าหนอนตายหยากมีฤทธิ์เมาเบื่อ ไม่ควรนำมากินดิบๆ อาจเกิดอันตรายได้

ขอถวายพระพร”

กลุ่มที่ 2 เรื่อง หนอนสะกดมด  ทรงพอพระทัย และถ่ายรูป ตรัสถามถึงว่าไม่ได้ฆ่ามดแต่ทำให้มดหนีไป

สามเณรวิษณุชัย  เชียงแรง ถวายรายงาน การจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์     ขอถวายพระพรสมเด็จแม่ อาตมภาพสามเณรวิษณุชัย  เชียงแรง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  ขอถวายรายงานการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ดังนี้ จุดที่พระองค์ทอดพระเนตรนี้คือการประมวลภาพกิจกรรมวิทยาศาสตร์ของโรงเรียนวัดอำมาตย์วิทยาซึ่งทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมทุกปีในวันที่ 18 สิงหาคม โดยมีกิจกรรมต่างๆเช่นการแข่งขันตอบปัญหาวิทยาศาสตร์ การแข่งขันเครื่องร่อน การแข่งขันรถหลอดด้าย การแข่งขันการจัดสวนระบบนิเวศน์ การแข่งขันจัดบอร์ดความรู้ และเข้าร่วมกิจกรรมสัปดาห์วิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย ทางโรงเรียนส่งตัวแทนนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมอีกด้วยและทางโรงเรียนก็ได้มีชุมนุมวิทยาศาสตร์ประจำภาคเรียนได้มีผลงานในการทดลองต่างๆ เช่นการทำยาหม่อง  ดองพืช การลอกภาพเหมือนจากหนังสือพิมพ์ขอถวายพระพร”

ตอนท้ายพระองค์ทรงแนะนำให้ส่งโครงงานเข้าร่วมในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์

จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปห้องวิทยาศาสตร์

 

ห้องที่ 6  ห้องศิลปะ

            ในห้องศิลปะ มีนายอดิศักดิ์ มีสุนทร  ครูสอนวิชาศิลปะ  สาเณรอาหล่อง มาเยอะ    สามเณร

สมรักษ์ สอนใจ  สามเณรโรจนศักดิ์  ช่างปัด  สามเณรวุฒิพงษ์  ฟังเร็ว  สามเณรพงษ์พินิจ  ศรีใจวัง

สามเณรพีรชัย  กิจบุญชู   นายแค  คิงคำ(ศิษย์เก่า)  นางสุภาพ  คิงคำ(วิทยากรพิเศษ)  เฝ้ารับเสด็จ

นายอดิศักดิ์  มีสุนทร ครูสอนวิชาศิลปะ ถวายรายงานการจัดการเรียนการสอนวิชาศิลปะว่า    

“ ข้าพระพุทธเจ้า นายอดิศักดิ์  มีสุนทร ครูสอนวิชาศิลปะ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6  ขอถวายราย

งานกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาศิลปะ     ลำดับแรกเป็นการวาดถาพลายเส้นแสดงแสงเงาคนเหมือนของสามเณรอาหล่อง  มาเยอะ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาที่ 5  รวมทั้งภาพเหมือนพระองค์ด้านบนนี้ด้วย

            ลำดับต่อมาเป็นการฝึกวาดภาพลายไทย ของสามเณรสมรักษ์  สอนใจ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาที่ 1 เป็นการฝึกวาดเส้นลายไทยขั้นพื้นฐาน พระเจ้าข้า”

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี  สามเณร วาดภาพสวยมาก ครูสอนจบจากที่ไหน

นายอดิศักดิ์  มีสุนทร :  ข้าพระพุทธเจ้าศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล  จังหวัดเชียงใหม่พระเจ้าข้า”

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี  ครูสอนที่โรงเรียนนี้มากี่ปี

นายอดิศักดิ์  มีสุนทร:  “ ข้าพระพุทธเจ้าสอนที่โรงเรียนวัดอำมาตย์นี้มา 8 ปี พระเจ้าข้า”    ทูลเชิญทอดพระเนตรถวายรายงานต่อ    “สามเณรพงษ์พินิจ  ศรีใจวัง นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3  กำลังวาดภาพงานจิตรกรรมไทยโดยใช้การแรเงาประกอบ  เมื่อนักเรียนเลื่อนลำดับช่วงชั้น จะเริ่มเรียนใช้สีน้ำ ในการเขียนภาพงานจิตรกรรมไทย (โดยมีสามเณรวุฒิพงษ์  ฟังเร็ว และ สามเณรโรจนศักดิ์  ช่างปัด   แสดงการเขียนภาพงานจิตรกรรมไทยด้วยสีน้ำ)  ผลงานภาพเหมือนของพระองค์นี้เป็นผลงานของศิษย์เก่าที่จบจากโรงเรียนวัดอำมาตย์วิทยาแล้วไปประกอบอาชีพทางศิลปะ ขอทูลเกล้าขอถวายผลงาน พระเจ้าข้า”

นายแค  คิงคำ  ข้าพระพุทธเจ้า นายแค  คิงคำ ศิษย์เก่าโรงเรียนวัดอำมาตย์วิทยา ขอถวายผลงาน พระเจ้าข้า

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี  (ทรงพระสรวญ) พร้อมชมว่าวาดภาพเก่งจะเอาไปไว้ที่ไหนดี (ถามข้าราชบริพาร)

อ.ผ่องพรรณ เอกอาวุธ ที่ตำหนักธงน้อยฯ พระเจ้าข้า

พระมหาโสภณ ปญฺญาวชิโร:  ศิษย์เก่าท่านนี้เป็นบุคคลไร้สัญชาติ เป็นศิษย์เก่าต้นแบบ ดังที่อาตมภาพได้ถวายรายงานเบื้องต้นแล้ว ขอถวายพระพร

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี  ยังไม่มีสัญชาติเหรอ

นายแค   คิงคำ ขณะนี้ ได้สัญชาติแล้วพระเจ้าข้า  

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี     เรื่องการศึกษาต่อกับเรื่องสัญชาติ บางครั้งเป็นอุปสรรคในการศึกษาต่อ   มีสามเณรที่จบจากโรงเรียนวัดอำมาตย์วิทยาแล้วไปศึกษาต่อที่สถาบันทางด้านศิลปะไหม

พระมหาโสภณ   ปญฺญาวชิโร   มีนักเรียนของโรงเรียนวัดอำมาตย์วิทยาหลายรูปที่จบจากโรงเรียนแล้วไปศึกษาต่อทางด้านศิลปะ และศิษย์เก่าบางท่านเมื่อเข้าไปศึกษาต่อแล้วมีผลงานดีเด่น อาจารย์ชมเชย  ขอถวายพระพร

            ภายหลังจากเสด็จพระราชดำเนินออกจากห้องศิลปะแล้ว  มีข้าราชบริพารเข้ามาถาม นายแค

คิงคำ  ถึงสภาพปัจจุบันและจดบันทึกที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์

             ทรงสนพระทัยในงานศิลปะ  ทรงถ่ายรูปสามเณรนักเรียนที่กำลังวาดรูปอยู่  ทรงถามถึง  แค  คิงคำ  เป็นศิลป์เก่าจบที่นี้ มาศึกษาต่อ  มีวุฒิการศึกษา ม.ปลาย ไม่ได้เรียนต่อ  เพราะไม่มีสัญชาติ  แต่มีฝีมือ  

            นายแคและภรรยา ทูลเกล้า ฯถวายพระบรมสาทิสลักษณ์ (ภาพวาดสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี) โดยพระองค์ท่านทรงมอบหมายให้อาจารย์ผ่องพรรณ  เอกอาวุธ นำไปที่ตำหนักธงน้อย อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน

ทรงตรัสว่าถ้าไม่มีสัญชาติ  สามารถทำงานอิสระ  ประกอบอาชีพได้  แต่รับราชการไม่ได้

จากนั้นเสด็จถึงห้องสอนภาษาไทย

 

 

 

 

 

 

 

ห้องที่ 7  ห้องภาษาไทย

มีนายธีราภิสุทธิ์  ประสพ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาภาษาไทย และนายจีรวัฒน์  สังฆะวรกุล ครูสอนวิชาภาษาไทย  พร้อมนักเรียนจำนวน 20 รูป เฝ้ารับเสด็จ

ทรงทอดพระเนตรการเรียนการสอนกลุ่มสาระวิชาภาษาไทย  ตรัสว่า  โรงเรียนอยู่ในเมือง  และมีพื้นฐานการศึกษาที่ดี มีโอกาสมาก

เสด็จเข้าห้องเรียนภาษาจีน

 

ห้องที่ 8  ห้องภาษาจีน

            นายเฉลิม  ช่างปัด ครูสอนวิชาภาษาจีน พร้อมนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 2 จำนวน 20 รูป  เฝ้ารับเสด็จ   ทรงทอดพระเนตรการเรียนการสอนภาษาจีน ทรงตรัสว่าก็ดีเป็นการเรียนพื้นฐานก่อน

จากนั้นเสด็จออกห้องภาษาจีน  พระครูอุดมคณาภิรักษ์ ผู้จัดการโรงเรียนวัดอำมาตย์วิทยา แนะนำนักเรียนจำนวน 225 รูป  ที่รอรับเสด็จ  ทรงตรัสถามว่า นักเรียนพักอยู่ที่วัดนี้เท่าไร พระครูอุดมคณาภิรักษ์ ถวายพระพรว่า “พักอยู่จำนวน 36 รูป ที่เหลือเดินทางโดยรถรับส่ง  ขอถวายพระพร” ทรงรับทราบ  แล้วพระราชดำเนินไป ตรัสถามว่า นักเรียนที่นี่มีน้ำหนักส่วนสูง ตามเกณฑ์หรือไม่  ข้าพเจ้า(นายนคร  จิตถา –ผู้บันทึกตามเสด็จ)   กราบทูลว่า  “นักเรียนมีน้ำหนักส่วนสูงตามเกณฑ์ พระเจ้าข้า”  ทรงตรัสเปรียบเทียบนักเรียนที่อื่นด้วย 

เสด็จถึงห้องสมุด

 

ห้องที่  9  ห้องสมุด

นางสมพร  รักประสงค์  เจ้าหน้าที่ห้องสมุด พร้อมด้วยพระสุขใจ สุมิตฺโต ครูสอนวิชาภาษาล้านนา สามเณรพงษ์พันธ์  แสงเทพ   สามเณรธนิน  ใจวงค์  สามเณรวีระศักดิ์  รักเหล่า  สามเณรวิทยา  มาแดง  สามเณรกิตติพงษ์  บุญเจริญ สามเณรสุริยา  ราชตา และนักเรียนโรงเรียนเด็กดีพิทยาคม จำนวน 3 คน เฝ้ารับเสด็จ

            นางสมพร  รักประสงค์ เจ้าหน้าที่ห้องสมุดถวายรายงานว่า     ข้าพระพุทธเจ้า    นางสมพร  รักประสงค์  เจ้าหน้าที่ห้องสมุด   ขอถวายรายงาน  นี้คือ  กล่องการนับสถิติการเข้าใช้บริการห้องสมุดของนักเรียนโดยแบ่งออกเป็นชั้นเรียน  เมื่อนักเรียนเข้าห้องสมุด นักเรียนก็จะหยิบฝาขวดน้ำ จำนวน 1 ฝาต่อ  1  ครั้ง  ใส่ในช่องที่ตนเรียนอยู่  หลังโรงเรียนเลิกเจ้าหน้าที่ห้องสมุดก็จะเปิดกล่องเพื่อนับสถิติการเข้าใช้บริการห้องสมุดว่ามีจำนวนเท่าไหร่ บันทึกเก็บสถิติเป็นรายวัน รายเดือน เมื่อสิ้นปีการศึกษาเจ้าหน้าที่ห้องสมุดจะนำสถิติที่ได้  มาจัดทำแผนภูมิแสดงการเข้าใช้บริการห้องสมุดของนักเรียนโรง เรียนวัดอำมาตย์วิทยาเพคะ”

            สามเณรพงศ์พันธ์  แสงเทพ ถวายรายงาน  

            “ขอถวายพระพรสมเด็จแม่ อาตมภาพสามเณรพงษ์พันธ์  แสงเทพ  นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5  ขอถวายรายงาน   ส่วนตรงนี้เป็นตารางการจองห้องสมุดเป็นชั้นเรียน  แนวทางการปฏิบัติก็คือ  เมื่อครูท่านใดมีความประสงค์จะใช้ห้องสมุดเพื่อสนับสนุนการเรียนการสอนในรายวิชานั้น  ครูประจำวิชาจะทำการจองตารางการใช้ห้องสมุดล่วงหน้า  อย่างน้อย  2  คาบเรียน  เพื่อเจ้าหน้าที่ห้องสมุดจะได้เตรียมสื่อ   สิ่งพิมพ์ให้ถูกต้องเหมาะสมและเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักเรียน

            ส่วนตรงนี้เป็นตารางการจัดหมวดหนังสือในห้องสมุด  ซึ่งจัดแบบ  8  กลุ่มสาระการเรียนรู้  โดยนำสีเป็นสัญลักษณ์ในการแยกหมวดหนังสือ  เพื่อสะดวกในการค้นหาหนังสือที่ต้องการ

            ส่วนการลงทะเบียนหนังสือใช้โปรมแกรม  Openbibio  ซึ่งโปรมแกรมนี้เป็นโปรมแกรมการจัดเก็บข้อมูลพื้นฐาน ซึ่งได้รับการอบรมจากหน่วยงาน สวทช. โดยมีอาจารย์ผ่องพรรณ  เอกอาวุธ และอาจารย์สุคนธา อาวัชนาการ เป็นผู้จัดอบรมให้กับคณะครูโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาจังหวัดเชียงราย 

            มุมนี้เป็นมุมภาษาล้านนา  มีนักเรียนกำลังฝึกพิมพ์ภาษาล้านนา  2  รูป   โดยใช้ฟรอนต์(Front) ติโลก ซึ่งหมายถึงภาษาล้านนาเคยรุ่งเรืองและใช้กันอย่างแพร่หลายในสมัยพระเจ้าติโลกราช การเรียนภาษาล้านนาเป็นวิชาหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มสาระภาษาไทย  โรงเรียนได้กำหนดให้นักเรียนได้เรียน 1 คาบต่อสัปดาห์   การเขียนปั๊บสาหรือการอ่านธรรมล้านนาสมัยก่อน จะต้องมีพ่อครูคอยนั่งอยู่ใกล้ เพื่อคอยให้คำชี้แนะลูกศิษย์ ขอถวายพระพร ทรงถ่ายรูปตารางแป้นพิมพ์อักษรล้านนาและตรัสถามว่า Program ที่ใช้มาจากไหน พระอาจารย์สุขใจ สุมิตฺโต ถวายพระพรว่า  “เป็นโปรมแกรมของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่  ขอถวายพระพร”

            สามเณรพงษ์พันธ์  แสงเทพ ถวายรายงาน “มุมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จแม่  มุมนี้ห้องสมุดได้รวบรวมหนังสือพระราชนิพนธ์ จัดไว้สำหรับให้ภิกษุ สามเณรและสาธุชนทั่วไปที่สนใจได้เข้ามาศึกษา หนังสือที่สมเด็จแม่นิพนธ์ไว้ และเพื่อให้สาธุชนทั่วไปได้เข้ามาสักการะและชื่นชมในพระปรีชาสามารถของสมเด็จแม่ด้วย ขอถวายพระพร”

            สามเณรธนิน  ใจวงศ์ ถวายรายงานว่า     “ ขอถวายพระพรสมเด็จแม่ อาตมภาพ สามเณรธนิน  ใจวงศ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ขอถวายรายงาน  ส่วนนี้จะเป็นการรวบรวมผลงานการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านของนักเรียน พระองค์ท่านทรงทอดพระเนตรผลงานนักเรียน  นางสมพร  ได้กราบทูลว่า  เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ห้อง

สมุดได้ดำเนินงานเพื่อส่งเสริมการอ่านของนักเรียน โดยให้นักเรียนบันทึกเนื้อเรื่อง  สาระสำคัญของหนังสือเล่มที่นักเรียนอ่าน เสร็จแล้วนำการบันทึกเรื่องที่อ่านมาจัดทำเป็นผลงานของนักเรียน ขอถวายพระพร”

ทรงถ่ายรูปผลงานนักเรียน  ทรงตรัสว่าจะเอาหนังสือมาแจกก็ทรงลืมทุกครั้ง อย่างเช่นหนังสือของสมเด็จพระสังฆราช และพระเถระรูปอื่น ๆ  ที่เกี่ยวกับประวัติ  ผลงานของพระองค์ท่าน เพื่อเป็นแนวทางการสอนและการปฏิบัติ     ทรงตรัสว่าทุนของพระองค์มาจากการทำงานคือการเขียนหนังสือขาย โดยเขียนหนังสือให้กับสำนักพิมพ์แล้วเงินที่ได้จากการทำงานก็เอามาทำบุญ บางโรงเรียนให้นัก

เรียนค้นจาก อินเตอร์เนต  เพื่อทำโครงงานวิทยาศาสตร์ หรือการทำอาหาร    ถ้าไม่เข้าใจก็จะค้นทางอินเตอร์เน็ต  เพราะว่าสามารถช่วยงานได้มาก  ต่อจากนั้นทอดพระเนตรการทำบรรณนิทัศน์หนังสือและกิจกรรมต่างๆ ตลอดถึงการดำเนินงานของห้องสมุด ต่อจากนั้นทอดพระเนตรการทำบรรณิทัศน์ สามเณรธนิน ใจวงศ์ ถวายรายงาน

“ตรงนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลของหนังสือ มีชื่อเรื่อง เรื่องย่อหนังสือ ผู้แต่ง สำนักพิมพ์ เป็นการแนะนำหนังสือแบบย่อๆเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่สนใจ ขอถวายพระพร”

นางสมพร  รักประสงค์ กราบทูลเรื่องการแนะนำหนังสือน่าอ่าน   เป็นการประชาสัมพันธ์หนังสือ เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนอยากติดตามหนังสือเล่มนั้น ๆ  ว่ามีเนื้อหาอย่างไรเกิดความรู้สึกใฝ่เรียนใฝ่รู้ หนังสือในห้องสมุดมีหลายประเภทอาทิเช่น หนังสือประเภทนวนิยาย การผจญภัย หนังสือ

แนวให้กำลังใจตนเอง  และเคล็ดลับต่าง ๆ รวมถึงหนังสือธรรมะแนวการปฏิบัติง่าย ๆ ใน ชีวิต

ประจำวันของท่าน  ว. วชิรเมธี

            พระองค์ท่านทรงตรัสแนะนำให้ทำหนังสือถึงท่าน ว. วชิรเมธี   เพื่อขอหนังสือที่ท่านเขียน

และพูดให้กำลังในการทำงาน ส่วนของมุมพระไตรปิฎกและหนังสือนักธรรม ทรงรับรายงานจากเจ้าหน้าที่ห้องสมุด  ทรงแนะนำให้ศึกษาอย่างละเอียดลึกซึ้งมากกว่าที่ค้นคว้าเพื่อทำรายจะได้รู้จริงเพราะสมัยปัจจุบันพระเทศน์ เขียนแต่ภาษาสมัยใหม่เน้นความบันเทิง ไม่ค่อยมีที่มาจากพระไตรปิฎกเท่าไหร่ 

            พระครูอุดมคณาภิรักษ์  ถวายรายงานโครงการก่อสร้างอาคารห้องสมุด  2 ชั้น  1  หลัง  ชั้นบน เป็นห้องสมุดชั้นล่างเป็นที่ฉันภัตตาหารเพราะปัจจุบันการฉันเพลของนักเรียนใช้บริเวณ ระเบียงรอบห้องประชุมและในห้องประชุม ทำให้ไม่เป็นสัดส่วน  ราคาประมาณ  3,600,000 บาท โดยมีสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นผู้สนองงาน

จากนั้นพระครูอุดมคณาภิรักษ์นำเสด็จถึงห้องโภชนาการ

 

 

 

 

 

ห้องที่ 10  ห้องโภชนาการ

            มีนางบรรยาย  ใจหนัก  นางสุภณา  คำราช ครูโภชนาการ  สามเณรโสภณ  ทองสิทธิ์ สามเณรวีรภัทร  เชียงปล้อง และสามเณรธนากร  ตาลาน  เฝ้ารับเสด็จ ทรงรับฟังรายงานจากนักเรียน  ทอด

พระเนตร และบันทึกสถิติต่าง ๆ    

            สามเณรโสภณ  ทองสิทธิ์  ถวายรายงานดัชนีมวลกายว่า   

            “ขอถวายพระพรสมเด็จแม่ อาตมภาพสามเณรโสภณ  ทองสิทธิ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5  ขอถวายรายงาน ค่าดัชนีมวลกาย ของนักเรียนโรงเรียนวัดอำมาตย์วิทยา ตามแผนภูมิแสดงการเจริญ เติบโตของเพศชาย อายุ  5-18  ปี  ดังนี้

            น้ำหนักต่ออายุ             -  นักเรียนมีน้ำหนักตามเกณฑ์อายุ เฉลี่ยแล้วอยู่ในเกณฑ์ ดี

            ส่วนสูงต่ออายุ             -  นักเรียนมีอัตราการเตี้ยลดลงและอยู่ในเกณฑ์ปกติเพิ่มขึ้น

            น้ำหนักต่อส่วนสูง      -  นักเรียนมีรูปร่างสมส่วนเพิ่มขึ้น        

ขอถวายพระพร”

            สามเณรธนากร  ตาลาน   ถวายรายงาน   ขอถวายพระพรสมเด็จแม่  อาตมภาพ          สามเณรธนากร  ตาลาน  ชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 2    ขอถวายรายงานการชงนม  มีดังนี้

              นมที่พระราชทานของสมเด็จแม่  ซึ่งพระราชทานนี้จะฉันเวลาหลังเลิกเรียน  การชงนมแต่ละวันจะชงจำนวน  320  แก้ว ต่อวัน  ซึ่งมีอัตราการชง  :

-                   นมผง  9,600  กรัม

-                   น้ำต้มสุก 64  ลิตร

ส่วนนี้คือภาชนะบรรจุนมของแต่ละห้องเรียนและแก้ว โดยให้เวรประจำวันของแต่ละห้องส่งตัวแทนมารับนมและตักนมแจกจ่ายโดยทั่วถึงกัน  เมื่อพร้อมเพรียงกันแล้วก็สวดมนต์ให้พรและฉันพร้อม ๆ กัน แล้วเวรประจำวันจะนำภาชนะและแก้วไปทำความสะอาด ขอถวายพระพร”  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงพอพระทัย

            สามเณรวีรภัทร  เชียงปล้อง   ถวายรายงาน  การเพาะถั่วงอก        “ขอถวายพระพร  สมเด็จแม่

อาตมภาพ  สามเณรวีรภัทร    เชียงปล้อง  นักเรียนชั้นมัธยมปีที่  3 โรงเรียนวัดอำมาตย์วิทยา  ขอถวายรายงาน  กิจกรรมการเพาะถั่วงอกดังต่อไปนี้

            นี่คือการเพาะถั่วงอก  จุดประสงค์ก็คือ  จะสามารถใช้เป็นวัตถุดิบในการประกอบภัตตาหารได้  ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้อีกทางหนึ่ง วิธีการเพาะถั่วงอกนั้นมีหลายวิธี   แต่กลุ่มของอาตมภาพ  เลือกมา  2  วิธี  คือ  การเพาะถั่วงอกระบบน้ำหมุนเวียนและการเพาะถั่วงอกระบบกาลักน้ำ

            การเพาะถั่วงอกระบบน้ำหมุนเวียนนั้นเป็นวิธีที่ง่ายมาก    โดยเราใช้ปั๊มน้ำขนาดเล็กดูดน้ำจากกะละมังมาปะพรมถั่วงอกที่อยู่ในถังตลอด  24 ชั่วโมง  เพื่อให้ถั่วงอกชุ่มชื้น เพราะถ้าหากเราไม่รดน้ำก็จะทำให้อากาศในถังเพาะถั่วงอกนั้นอบอ้าวและถั่วก็จะไม่งอกแล้วเน่าตายในที่สุด

            ส่วนการเพาะถั่วงอกระบบกาลักน้ำนั้น  ก็เป็นวิธีที่ง่ายอีกวิธีหนึ่ง  โดยเราใช้หลักการแรงโน้มถ่วงของโลก ดูดน้ำจากถังข้างบนมาปะพรมถั่วงอกโดยไม่ต้องใช้ระบบไฟฟ้า ซึ่งน้ำ  1 ถังใหญ่สามารถปะพรมถั่วงอกได้เป็นระยะเวลา  3  ชั่วโมง  โดยเราจะแบ่งเวรมาคอยดูแลเติมน้ำในถังทุก ๆ  3  ชั่วโมง   ส่วนในช่วงกลางคืนนักเรียนกลับวัดไม่มีใครคอยดูแลก็จะใช้ปั๊มน้ำขนาดเล็กเข้ามาช่วย  ขอถวายพระพร”

ทรงเยี่ยมโรงประกอบภัตตาหาร ทรงบันทึกสถิติต่างๆ “ตรัสว่าน้ำหนักส่วนสูงตามเกณฑ์ดี ”

 

เสด็จเข้าห้องประทับเพื่อฉายพระรูป

            ทรงฉายพระรูปร่วมกับคณะครูและคณะกรรมการสถานศึกษา    เสด็จออกจากห้องประทับ   แล้วทรงมอบทุนแก่โรงเรียน  5,000 บาท  โดยมีข้าพเจ้า(นายนคร  จิตถา –ผู้บันทึกตามเสด็จ)  เป็นผู้รับมอบ

เสด็จลงลานหน้าห้องประทับ ตรัสกับข้าราชบริพาร เกี่ยวกับปัจจัยค่าภัตตาหารเพลว่าได้โอนให้หรือยัง กรมวังผู้ใหญ่ ทูลว่า ได้ถวายเป็นเช็คแล้ว   ตรัสต่อว่า ถ้าเช่นนั้นต้องไปตรวจ  กรมวังผู้ใหญ่ ทูลตอบรับ

ตรัสถึงการอบรมบุคลากร และจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย จะทำบุญ

 

เสด็จเข้าห้องสรง

            เมื่อเสด็จออกจากห้องสรงแล้ว ทรงตรัสกับผู้อำนวยการสาธารณสุขเขต ถึงเรื่อง สารพิษตกค้าง  

จากนั้นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เสด็จออกจากโรงเรียนวัดอำมาตย์วิทยา โดยมีข้าราชการ, คณะกรรมการสถานศึกษา, คณะครู นักเรียน ส่งเสด็จ

เสด็จเข้าวัดอำมาตย์ ทางประตูด้านทิศตะวันออก ในวัดอำมาตย์ มีข้าราชการ, กำนัน,ผู้ใหญ่บ้าน, หน่วยทันตกรรมพระราชทาน, หน่วยแพทย์, ประชาชน เฝ้ารับเสด็จ

ทรงเยี่ยมคนไข้, ทรงรับฟังรายงานจากหน่วยทันตกรรมพระราชทาน,  ทรงเยี่ยมราษฎรในวัด

เสด็จถึงประตูวัดด้านทิศใต้  ทรงตรัสว่า  โรงเรียนวัดอำมาตย์วิทยาจัดดีมาก  จะหาหนังสือพระเถระมา  นักเรียนสามเณรจะมีโอกาสศึกษามาก

ทรงรับทราบถึงโรงเรียนพระปริยัติธรรมจังหวัดพะเยาขอเข้าร่วมโครงการพระราชดำริด้วย จะให้อาจารย์ผ่องพรรณ  เอกอาวุธ เป็นผู้ประสานงาน

เสด็จออกจากประตูวัด   ทรงโบกพระหัตถ์ทักทายประชาชนทุกหมู่เหล่า   ประชาชนเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้องด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและด้วยความจงรักภักดีเหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ทรงประทับรถยนต์พระที่นั่งและทรงโบกพระหัตถ์ให้กับประชาชนที่เฝ้ารับเสด็จตามรายทางไปจนถึงโรงเรียนเทิงวิทยาคม เพื่อเสด็จไปจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฮลิคอปเตอร์  เวลา  17.40  น.

รวมเวลาเสด็จเยี่ยมโรงเรียนวัดอำมาตย์วิทยา   2  ชั่วโมง  5  นาที

 

 

 

(นายนคร  จิตถา)

ผู้จดบันทึกตามเสด็จ

 

 

(พระมหาโสภณ   ปญฺญาวชิโร)

อาจารย์ใหญ่/ผู้ตรวจ

 

 

(พระครูอุดมคณาภิรักษ์)

ผู้จัดการ/ผู้รับรอง

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น